Diversity จากเรื่องของการยอมรับ สู่การพัฒนาความเป็นเลิศของ Mercedes Benz

เราเคยถูกล้อในสมัยเด็กว่า “เจ้าอ้วน” “ยัยไม้เสียบผี” หรือสรรพนามอื่นๆกันบ้างหรือไม่ ในอดีตเรื่องราวเหล่านี้เกิดขึ้นเป็นกิจวัตร และเชื่อว่ามันเกิดขึ้นซ้ำแล้วซ้ำเล่า จนกลายเป็นเรื่องเคยชิน สนุกปาก และเราท่านทั้งหลายเชื่อหรือไม่ว่า เพียงคำพูดสนุกปากที่หยอกเย้า แหย่เพื่อนในวันนั้น สำหรับคนบางคน มันกลายเป็นตราบาป หรือสร้างความเกลียดชังตนเอง ทำให้คนหนึ่งคน อาจจะหมดความศรัทธาในตนเองได้เลยทีเดียว

ในขณะที่อีกมุมของโลกในปัจจุบัน ท่านอาจเคยได้ยินเรื่องที่ผ่านหูมาบ้างว่า กระเทย สาวประเภทสอง หรือเกย์ตุ๊ด อาจไม่มีสิทธิเท่าเทียมกับหลายๆคนในสังคม การยอมรับในหน้าที่การงาน หรือแม้แต่ข่าวเรื่องการยอมรับในเพศสภาพในสถานศึกษา หรือที่ทำงาน มักมีข่าวถึงปัญหาเช่นนี้อยู่เรื่อยมา

การที่โลกปัจจุบัน มนุษย์ผู้ชาย ผู้หญิง หรือหนุ่มสาวเพศทางเลือกทั้งหลาย ต่างหายใจทำงาน ทำมาหากิน ดำเนินชีวิตอยู่เคียงบ่าเคียงไหล่กัน แต่กลับมีมุมซ่อนเร้น ให้เกิดการเหยีดหยาม การไม่ยอมรับ และเรื่องอื่นๆตามมาอีกมากมาย

เพื่อจุดประกาย และแน่นอนว่าด้วยความที่เป็นองค์กรขนาดใหญ่ในระดับโลก และเครือข่ายของกลุ่มเดมเลอร์ และ เมอร์เซเดส เบนซ์ ที่มีอยู่ในทั่วทุกมุมโลก การปรับเปลี่ยนแนวคิด และมุมมองของการใช้ชีวิตร่วมกันของพวกเรานั้น จึงเกิดแนวคิดที่เชื่อมั่นในคำสำคัญคำหนึ่ง ที่กลายเป็นที่มาของแคมเปญระดับโลก Diversity - ความหลากหลาย’ ของบุคคล พร้อมให้ความเคารพและเชื่อมั่นในตัวตนของเขา มากกว่าภาพลักษณ์ภายนอก คำว่า Diversity มีการแปลอย่างเหมาะสมว่า ความหลากหลาย ความหลากหลายทางชีวภาพ ( Biological Diversity ) หมายถึง การมีชนิดพันธุ์ของสิ่งมีชีวิตหลากหลายชนิด มาอยู่ร่วมกัน ณ สถานที่หนึ่ง หรือระบบนิเวศใดระบบนิเวศหนึ่ง เช่นเดียวกับมนุษย์ในสังคม การรวมตัวกันของคนในหลากหลายเชื้อชาติ สายพันธุ์ และความหลากหลายทางเพศสภาพที่ล้วนเป็นสิทธิในปัจเจกบุคคล ที่มีความเท่าเทียมกันในคำว่า “เพื่อนมนุษย์”

มีตัวอย่างบทความจาก www.hotcourses.in.th ได้เคยนำเสนอถึงเรื่องของ Diversity สำคัญอย่างไรไว้ว่า “Diversity หรือว่าความหลากหลายกลายมาเป็นคำที่คนพูดถึงกันบ่อยมากขึ้นในคริสตศตวรรษที่ 21 ไม่ว่าจะเป็นความหลากหลายด้านเชื้อชาติ ด้านเพศสภาพ และอื่นๆ วันนี้เราจะมาทำความรู้จักกับเรื่องความหลากหลายให้มากขึ้น โดยเฉพาะกับในโลกมหาวิทยาลัย มาดูกันดีกว่าว่าทำไม”

Diversity ที่หลายคนพูดกันในยุคปัจจุบัน หมายถึงความหลากหลายในสังคม จะได้ยินบ่อยมากในสังคมอเมริกัน เพราะว่าประเทศสหรัฐอเมริกาขึ้นชื่อเรื่องของการมีคนหลากหลายเชื้อชาติ รวมตัวกันอยู่จนเคยถูกเรียกว่าเป็นชามสลัด (Salad bowl) ที่มีผักหลากชนิดมารวมกันเลยทีเดียว ให้นึกภาพการ์ตูนของดิสนีย์เรื่อง Zootopia ที่พยายามนำเสนอไอเดียเรื่องความหลากหลายทางเชื้อชาติที่มีสัตว์หลายเผ่าพันธุ์อยู่ร่วมกัน เพราะฉะนั้น diversity ที่ว่าก็คือความหลากหลายของผู้คนที่ทำให้อัตลักษณ์ของแต่ละคนแตกต่างกันไป นับว่าเป็นเรื่องดีๆ ที่ทำให้ชีวิตคนหนึ่งได้เจออะไรหลายๆ อย่าง

Diversity สำคัญอย่างไร ถ้าใครติดตามข่าวสารบ้านเมืองต่างชาติ ไม่ใช่แค่ประเทศอเมริกา แต่ยังรวมถึงประเทศอื่นๆ เราก็จะยังได้ยินเรื่องราวน่าเสียใจอยู่บ่อยครั้ง เรื่องของการดูถูก การเหยียดเชื้อชาติ (racist) จนทำให้ต้องเกิดการเดินขบวนกันบ่อยครั้ง เช่นกลุ่มสนับสนุน Black Live Matters เป็นกลุ่มที่ออกมาเรียกร้องให้ความยุติธรรม กับคนแอฟริกันอเมริกันที่ไม่ได้รับความเท่าเทียม เท่ากับคนคอเคเชี่ยนหรือว่าคนผิวขาว โดยเฉพาะกับกรณีที่คนแอฟริกันอเมริกันที่ไม่ได้รับความยุติธรรม จากตำรวจเพราะการเหมารวม (stereotype)

พอหลายคนเห็นแบบนี้ก็อาจจะถามว่า อ้าว? แล้ว diversity มันดีอย่างไรถ้ามันทำให้เกิดความวุ่นวาย การดูถูกแบบนี้ คำตอบก็คือเป็นไปไม่ได้ที่โลกใบนี้จะอยู่ได้โดยไม่มีความหลากหลาย เพราะเราต่างต้องยืมวัฒนธรรม แลกเปลี่ยนความคิดเห็น ความเชื่อกัน เพื่อดำรงไปในสังคม การจะอยู่คนเดียวในสังคมนั้นเป็นไปไม่ได้

ความหลากหลายไม่ว่าจะทางเชื้อชาติหรือทางไหนต้องอยู่ร่วมกับการเอาใจเขามาใส่ใจเรา หรือการตระหนักเรื่องความสำคัญทางความแตกต่าง ไม่เช่นนั้นก็จะเกิดปัญหาแบบที่พูดในย่อหน้าก่อนหน้า การทำความเข้าใจเรื่องความหลากหลายจะทำให้เราเข้าใจเกี่ยวกับสังคมมากขึ้น ทำให้เกิดความเคารพซึ่งกันและกันและทำให้เข้าใจสิทธิของคนอื่น

นอกจากสเกลใหญ่อย่างสังคมทั่วไปแล้ว ความหลากหลายก็ยังมีบทบาทสำคัญในสังคมมหาวิทยาลัย หลายๆ คนคงเคยได้ยินว่ามหาวิทยาลัยเป็นสังคมจำลองของสังคมจริงแต่ย่อส่วนมา การอยู่ร่วมกันในสังคมที่มีความหลากหลายจะทำให้เราเข้าใจโลกมากขึ้น เรียนรู้การจัดการมากขึ้น

นอกจากนี้ยังเป็นตัวช่วยให้เราเข้าใจวัฒนธรรมอื่นๆ ละให้วัฒนธรรมอื่นๆ เข้าใจเรามากขึ้น ด้วยการเปิดใจ พูดคุยกัน และสร้าง harmony ภายใต้ diversity ให้ได้มหาวิทยาลัยที่มีความหลากหลายมากๆ นอกจากจะแสดงให้เห็นคุณภาพของมหาวิทยาลัย การไว้วางใจจากคนหลายเชื้อชาติ ว่าสามารถอยู่ร่วมกันได้ ยังแสดงให้เห็นการจัดการที่ดีของมหาวิทยาลัย ว่าการดูแลนักเรียนต่างชาติจะต้องดีแน่ๆ

จากแนวคิดดังกล่าว เมอร์เซเดส เบนซ์ ประเทศไทย ด้วยการนำทีมพนักงานกลุ่ม ‘Diversity’ ในประเทศไทย ซึ่งรวบรวมกลุ่มคนที่มีความหลากหลายในทุกด้าน ทั้งทางด้านเชื้อชาติ ศาสนา เพศ อายุ และวัฒนธรรม เดินทางไปยังโรงเรียนเยาววิทย์เป็นครั้งแรก โดยมีวัตถุประสงค์ ในการส่งต่อความรู้และสื่อสารให้เด็กเข้าใจ ความหมายของ ‘Diversity’ ผ่านเกมกิจกรรมอันสนุกสนาน ซึ่งจะทำให้เด็กเห็นคุณค่า ของตนเองและเข้าใจถึงตัวตน ที่แตกต่างของคนอื่นได้ดียิ่งขึ้น นอกจากนั้นยังมีการร่วมเสวนากับสื่อมวลชน ถึงทิศทางและการร่วมรณรงค์ให้สังคม Diversity ในบริษัท เมอร์เซเดส เบนซ์ ประเทศไทย กลายเป็นเสมือนบริษัทนำร่องในการเปิดกว้างกับหมู่คนที่มีความหลากหลาย ทั้งทางด้านเชื้อชาติ ศาสนา เพศ อายุ และวัฒนธรรม เพื่อแสดงให้เห็นศักยภาพของผู้คนที่มีความแตกต่างกันทางความคิด สปิริตในการทำงานที่หลากหลาย ความกระตือรือร้นที่มีความแตกต่างกันของผู้คน ซึ่งสามารถอำนวยประโยชน์ให้องค์กร สามารถก้าวเดินไปสู่ตวามสำเร็จได้อย่างสูงสุด

มร.โรลันด์ โฟลเกอร์ ประธานบริหาร บริษัท เมอร์เซเดส-เบนซ์ (ประเทศไทย) จำกัด กล่าวว่า “เมอร์เซเดส-เบนซ์ ประเทศไทย มีความมุ่งมั่นที่จะเป็นส่วนหนึ่งในการช่วยยกระดับ และพัฒนาคุณภาพชีวิตของคนในสังคมให้ดีขึ้น โดยเฉพาะการสนับสนุนด้านการศึกษาแก่เยาวชน เพราะ ‘การศึกษา’ ถือเป็นรากฐานที่สำคัญที่สุดของการเติบโตขึ้นไปเป็นผู้ใหญ่ที่ดีในอนาคต ซึ่งหนึ่งในกิจกรรมเพื่อสังคมด้านการศึกษาที่บริษัทฯ ได้ดำเนินมาอย่างต่อเนื่องกว่า 15 ปีแล้ว นอกจากกิจกรรมการส่งมอบสนามฟุตบอลและเงินสนับสนุนแล้ว ทางบริษัทฯ ยังได้สานต่อแนวคิดของเดมเลอร์ ที่เชื่อมั่นใน ‘Diversity - ความหลากหลาย’ ของบุคคล พร้อมให้ความเคารพและเชื่อมั่น ในตัวตนของเขามากกว่าภาพลักษณ์ภายนอก ด้วยการนำทีมพนักงานกลุ่ม ‘Diversity’ ในประเทศไทย ซึ่งรวบรวมกลุ่มคนที่มีความหลากหลายในทุกด้าน ทั้งทางด้านเชื้อชาติ ศาสนา เพศ อายุ และวัฒนธรรม เดินทางไปยังโรงเรียนเยาววิทย์เป็นครั้งแรก โดยมีวัตถุประสงค์ในการส่งต่อความรู้และสื่อสารให้เด็กเข้าใจความหมายของ ‘Diversity’ ผ่านเกมกิจกรรมอันสนุกสนาน ซึ่งจะทำให้เด็กเห็นคุณค่าของตนเองและเข้าใจถึงตัวตนที่แตกต่างของคนอื่นได้ดียิ่งขึ้น” มร.โรลันด์ กล่าวปิดท้าย

https://www.facebook.com/amorn.woramalee/videos/10213857599450391/

ส่วนหนึ่งของการเสวนาระหว่างตัวแทนของ Mercedes Benz Thailand กับสื่อมวลชนในเนื้อหาของกิจกรรม Diversity

ผู้คนก็เสมือนเครื่องจักร ผู้คนในสังคมก็เสมือนรถยนต์คันหนึ่ง ขาดเฟืองขับเคลื่อนซักตัวอาจก้าวเดินไปได้ แต่มันคงไม่สมบูรณ์แบบอย่างที่เป็น การให้ความสำคัญกับทุกบุคลากรในสายงาน กับเพื่อนร่วมงานทุกคน ในทุกภูมิภาคทั่วโลกของ Mercedes Benz นั่นคือกลจักรสำคัญที่สามารถรวบรวมผู้คน ความเฉลียวฉลาด สปิริตในการต่อสู่ นำพาให้ Mercedes Benz ก้าวขึ้นสู่ความเป็นที่สุดของบริษัทที่เปิดกว้าง และก้าวไปพร้อมๆกับความเปลี่ยนแปลงของโลก ทั้งในปัจจุบัน และอนาคตที่กำลังจะมาถึง

อมร วรมาลี / amornthaitelegraph@gmail.com

ขอขอบคุณในบทความบางส่วนจาก www.hotcourses.in.th