วอลโว่ B8R ตอบโจทย์แชสซีรถโดยสารเพื่อความปลอดภัย

หมดเวลา สร้างรถด้วยแนวคิดล้าสมัย ถึงเวลาสร้างความปลอดภัยรถโดยสารสาธารณะบนท้องถนนไทย “กรมการขนส่งทางบก เผยสถิติอุบัติเหตุทางถนนจากรถโดยสารสาธารณะ ในช่วง 8 เดือน สูงเกือบ 200 ครั้ง มีผู้เสียชีวิตกว่า 100 ราย และบาดเจ็บอีกเกือบ 2,000 ราย สาเหตุส่วนใหญ่เกิดจากตัวคน(ผู้ขับขี่) รองลงมาคือ จากสภาพรถ ย้ำให้ผู้ประกอบการขนส่งคุมเข้มพนักงานขับรถ”

กรุงเทพฯ - ที่ท่านผู้อ่านเห็นผมโปรยหัวแบบนี้ นี่เป็นบทความชิ้นหนึ่งจากข่าวของ กรมการขนส่งทางบก ที่ได้ออกข่าวรายงานผลการเกิดอุบัติเหตุของรถยนต์สาธารณะให้ประชาชนรับทราบ และแน่นอนว่าในเนื้อข่าวดังกล่าว ได้กล่าวถึงสาเหตุ และมูลเหตุของการเกิดอุบัติเหตุในรถยนต์สาธารณะ หรือรถขนส่งคน หรือเข้าใจง่ายๆคือรถเมล์ รถทัวร์ รถโดยสารนั่นเองว่า

สาเหตุที่แท้จริงของอุบัติเหตุบนท้องถนนนั้น ตัวบุคคลผู้ขับขี่มีผลต่อการเกิดอุบัติเหตุเป็นอย่างยิ่ง นอกจากนั้นอีกสิ่งหนึ่งที่เราเห็นกันอยู่บนท้องถนนนั่นก็คือ บรรดารถทัวรื รถบัส ที่ใช้ในงานขนส่ง ท่านผู้อ่านทราบหรือไม่ว่า จะมีรถบัส รถทัวร์ซักกี่คัน ที่ถูกออกแบบให้ผลิตขึ้นมาเป็นรถขนส่งที่มีคุณสมบัติเหมาะสมกับการใช้ขนคน ขนส่งสาธารณะอย่างแท้จริง

รถเมล์ รถบัสโดยสารในปัจจุบัน ผมสอบถามผู้ที่มีส่วนเกี่ยวข้องกับการผลิตรถยนต์โดยสารสาธารณะ ถามว่ามีรถที่ตรงกับสเปกของรถที่ใช้ขนส่งคนจริงๆกี่มากน้อยบนถนน คำตอบน่าตกใจครับ เพราะแค่ให้เกินกว่า 50% บนท้องถนนยังทำได้ยาก สาเหตุมาจากอะไร สาเหตุมาจากการเลือกใช้แชสซีที่มีความคิดที่ว่า แชสซีของรถบรรทุก หรือรถบัส ย่อมมีคุณสมบัติที่ไม่แตกต่างกัน ตรงนี้เป็นผลมาจากการที่ค่านิยมจากอดีตที่ถูกฝังหัวกันมา ด้วยเพราะวิทยาการในอดีต ต้องยอมรับว่ารถบรรทุกได้เกิดขึ้นมาก่อนรถบัสโดยสาร และแน่นอนว่าด้วยปริมาณความต้องการของรถบรรทุก ย่อมมีมากกว่ารถบัสโดยสารที่สนองตอบความต้องการในการขนส่งเพียงขนคนเดินทาง ไม่สามารถเทียบได้กับการขนส่งอุปกรณ์ วัสดุก่อสร้าง สินค้า ที่แน่นอนว่าดูจะเป็นปัจจัยหลักในอดีตมากกว่าในปัจจุบัน ที่วิทยาการได้พัฒนาแยกประเภท ของแชสซี่รถโดยสารออกมาจากแชสซีรถบรรทุกอย่างชัดเจนแล้ว

ล่าสุด ผู้นำในตลาดรถบรรทุกและรถบัสอย่าง Volvo ได้เปิดตัวแชสซีรุ่นใหม่ล่าสุดที่ใช้เครื่องยนต์ของวอลโว่ขนาดความจุ 8 ลิตรเป็นขุมพลังขับเคลื่อนโดยกำหนดเปิดตัวอย่างเป็นทางการในประเทศไทย วอลโว่รุ่น B8R ซึ่งเป็นการทดแทนวอลโว่รุ่น B7R ที่มียอดจำหน่ายสูงสุดไปแล้วกว่า 40,000 คันใน 65 ประเทศทั่วโลก โดยเน้นจุดเด่นของวอลโว่รุ่นใหม่คือ เครื่องยนต์ที่ให้กำลังสูงขึ้นและให้ประสิทธิภาพการประหยัดน้ำมันเชื้อเพลิงสูงสุด พร้อมด้วยระยะเวลาเปลี่ยนถ่ายน้ำมันเครื่องที่นานขึ้นและอุปกรณ์ด้านความปลอดภัยครบครัน วอลโว่ B8R ถูกออกแบบมาเพื่อให้ครอบคลุมการใช้งานหลากหลายประเภท อาทิเช่น การใช้งานรถรับส่งพนักงาน รถบัสสำหรับนักท่องเที่ยว และรถนักเรียน โครงสร้างของตัวรถรวมถึงชิ้นส่วนต่างๆ ที่แข็งแรงและระบบขับเคลื่อนที่ผ่านการทดสอบและยืนยันแล้วว่ามีความทนทาน ไว้วางใจได้

เครื่องยนต์ วอลโว่ D8 เป็นเครื่องยนต์ดีเซลคอมมอนเรลของวอลโว่เองที่ให้กำลังสูงสุด 330 แรงม้าและแรงบิดสูงสุด 1200 นิวตันเมตรด้วยพละกำลังมากขึ้นอีก 40  แรงม้า และให้ประสิทธิภาพการประหยัดน้ำมันเชื้อเพลิงสูงสุด เฉกเช่นรุ่นที่ผ่านมา ซึ่งได้รับการพิสูจน์แล้วในท้องตลาด อีกทั้งสามารถยืดระยะการเปลี่ยนถ่ายน้ำมันเครื่อง จาก 50,000 ก.ม. เป็น 80,000 ก.ม. สำหรับการขับขี่ทางไกล

วอลโว่ B8R ออกแบบมารองรับทุกความต้องการในการขับขี่ที่คล่องตัว ให้ความสะดวกสบายและความปลอดภัย ด้วยอุปกรณ์ความปลอดภัยมาตรฐานที่ติดตั้งมาจากโรงงาน อาทิ ดิสก์เบรกที่ควบคุมด้วยระบบอิเล็กทรอนิกส์ของวอลโว่ ระบบป้องกันการเบรกล้อล็อกตาย (Anti-Lock Brake System - ABS) และระบบควบคุมการทรงตัวของรถแบบอิเล็กทรอนิกส์ (Electronic Stability Program - ESP)

ในประเทศไทย แชสซีรุ่นใหม่ วอลโว่  B8R มาพร้อมด้วยระบบเทเลมาติกส์ (Telematics) ซึ่งจะทำให้ผู้ประกอบการและศูนย์บริการได้รับรู้ข้อมูลของตัวรถได้ทันที (real time)  อีกทั้งลูกค้าสามารถเลือกเพิ่ม ระบบ I-Coaching ที่จะช่วยให้ผู้ขับขี่สามารถทำการขับขี่ได้อย่างปลอดภัยมากขึ้น และประหยัดน้ำมันเชื้อเพลิงมากขึ้น ด้วยการแสดงผลลัพธ์แก่ผู้ขับขี่อย่างต่อเนื่อง

วอลโว่ บัส ได้ดำเนินกิจการประกอบแชสซี วอลโว่ B8R ในกรุงเทพฯ โดยนำเข้าชิ้นส่วนแชสซีจากโรงงานวอลโว่ บัส  ในเมืองโบราส ประเทศสวีเดน นอกจากนี้แชสซีวอลโว่ B8R พร้อมจำหน่ายแล้วทั่วทั้งภูมิภาคเอเชียแปซิฟิก และเตรียมความพร้อมสำหรับมาตรฐานการปล่อยไอเสียยูโร 5 ที่จะเกิดขึ้นในอนาคต

วอลโว่ B8R: ความยาว 10.1–13.1 ม. ความกว้าง 2.4 ม. ระยะฐานล้อ 4.5–7.4 ม. น้ำหนักรวม (GVW) สูงสุด 19 ตัน ใช้เครื่องยนต์วอลโว่ D8 ดีเซลแถวเรียงหกสูบ ให้กำลัง 330 แรงม้า/1200 น.ม. มาตรฐานการปล่อยไอเสียยูโร 5 และ ยูโร 3 และระบบเกียร์เป็นเกียร์อัตโนมัติ ZF เบรกและระบบเสริมการทรงตัวระหว่างขับขี่ อาทิ ระบบเบรกอิเล็กทรอนิกส์ของวอลโว่ (Volvo EBS), ระบบป้องกันการเบรกล้อล็อกตาย (Anti-Lock Brake System - ABS),  ระบบจะช่วยลดความเสี่ยงต่อการเกิดสถานการณ์อันตราย (Brake Blending) , ระบบป้องกันการไหลบนไหล่เขา (Hill Start Aid), ระบบช่วยเบรก (Brake Assist), ระบบควบคุมการทรงตัวของรถแบบอิเล็กทรอนิกส์ (Volvo Electronic Stability Program -ESP), ระบบช่วยเบรก (Integrated hydraulic retarder)

และทั้งหมดนี้ ก็น่าที่จะเป็นข้อมูลที่ท่านผู้อ่านจะสามารถเข้าใจได้ว่า นับจากนี้หากท่านจะเลือกใช้รถยนต์โดยสาร เลือกขึ้นรถโดยสาร หรือต้องพึ่งพาการเดินทางด้วยระบบขนส่งสาธารณะแล้วนั้น การสังเกตุ หรือเลือกใช้พาหนะที่มีมาตรฐาน และมีคุณภาพ ที่ถูกออกแบบให้เหมาะสมกับการใช้งานในประเภทนั้นๆ ย่อมนำมาซึ่งความปลอดภัย นำมาซึ่งความไว้วางใจในการเลือกพาหนะเดินทางที่คุณมั่นใจได้มากที่สุด รวมถึงภาครัฐเองที่ควรรณรงค์ส่งเสริม ให้ผู้ประกอบการเลือกแชสซี่ที่มีคุรภาพ มีมาตรฐาน ให้เหมาะสมกับการสร้างรถเพื่อการโดยสารขนส่ง เพื่อสาธารณะอย่างแท้จริงต่อไปในอนาคต

อมร วรมาลี / amornthaitelegraph@gmail.com

ขอขอบคุณ : วอลโว่ ทรัคส์

---