บีเอ็มดับเบิลยู กรุ๊ป ประเทศไทย สานต่อเส้นทางสู่ยานยนต์แห่งอนาคต มอบประสบการณ์มอเตอร์โชว์เต็มรูปแบบที่ผสานช่องทางดิจิทัลล้ำสมัย นำโดย บีเอ็มดับเบิลยู X3 xDrive30e M Sport ใหม่


ข่าวทั้งหมด : / บีเอ็มดับเบิลยู กรุ๊ป ประเทศไทย สานต่อเส้นทางสู่ยานยนต์แห่งอนาคต มอบประสบการณ์มอเตอร์โชว์เต็มรูปแบบที่ผสานช่องทางดิจิทัลล้ำสมัย นำโดย บีเอ็มดับเบิลยู X3 xDrive30e M Sport ใหม่

บีเอ็มดับเบิลยู กรุ๊ป ประเทศไทย สานต่อเส้นทางสู่ยานยนต์แห่งอนาคต มอบประสบการณ์มอเตอร์โชว์เต็มรูปแบบที่ผสานช่องทางดิจิทัลล้ำสมัย นำโดย บีเอ็มดับเบิลยู X3 xDrive30e M Sport ใหม่


กรุงเทพฯ  บีเอ็มดับเบิลยู กรุ๊ป ประเทศไทย สานต่อเป้าหมายในการก้าวสู่อนาคตแห่งโลกยานยนต์ ด้วยทัพรถยนต์ใหม่จากบีเอ็มดับเบิลยูและมินิในงานบางกอก อินเตอร์เนชั่นแนล มอเตอร์โชว์ 2020 ซึ่งจัดขึ้นเป็นปีที่ 41 นอกจากรถยนต์รุ่นใหม่และข้อเสนอสุดพิเศษแล้ว ลูกค้ายังจะได้สัมผัสอีกระดับของประสบการณ์มอเตอร์โชว์ ทั้งพื้นที่จัดแสดงที่มีมาตรการด้านสุขอนามัยครบถ้วน และประสบการณ์แบบดิจิทัลที่ครบทุกมุมมองและโต้ตอบได้ ให้ทุกคนได้สัมผัสอย่างสะดวกสบายและปลอดภัยจากที่บ้าน

มร. อเล็กซานเดอร์ บารากา ประธาน บีเอ็มดับเบิลยู กรุ๊ป ประเทศไทย กล่าวว่า ปี 2563 นับว่าเป็นปีแห่งความเปลี่ยนแปลงครั้งใหญ่สำหรับทุกคน เราคงไม่อาจปฏิเสธได้ว่าสถานการณ์ในปีนี้ได้สร้างผลกระทบอย่างใหญ่หลวงให้กับทุกแง่มุมของชีวิต รวมไปถึงทุกภาคอุตสาหกรรม แต่ในขณะเดียวกัน เหตุการณ์นี้ก็ได้ผลักดันเราให้ก้าวเข้าสู่ช่วงเวลาแห่งการเร่งปรับตัวและสรรสร้างนวัตกรรม เรายังคงมุ่งมั่นที่จะมอบที่สุดของความสุนทรีย์ในการขับขี่ เทคโนโลยีใหม่ล่าสุด และอิสรภาพจากทางเลือก ให้กับลูกค้าของเราไม่ว่าจะที่ไหนหรือในสถานการณ์ใดก็ตาม อย่างที่เห็นได้จากประสบการณ์มอเตอร์โชว์ในปีนี้ ที่ลูกค้าสามารถเข้าร่วมได้ด้วยตนเองภายในงานและแบบดิจิทัลไปพร้อมๆ กัน

ด้วยรถยนต์บีเอ็มดับเบิลยู X3 xDrive30e M Sport ใหม่ เราพร้อมนำเสนออีกหนึ่งยานยนต์ไฟฟ้าในระบบปลั๊กอินไฮบริดที่ประกอบขึ้นในประเทศ และพร้อมตอบโจทย์การขับขี่แบบรอบด้านสำหรับนักขับที่รักการผจญภัย ด้วยการใช้พลังงานที่มีประสิทธิภาพมากยิ่งขึ้น พร้อมมอบทางเลือกในการขับขี่แบบปราศจากมลภาวะ โดยยังคงทุกเอกลักษณ์ของรถยนต์บีเอ็มดับเบิลยู X3 ไว้อย่างครบถ้วน ไม่ว่าบนท้องถนนหรือเส้นทางออฟโรด ทั้งนี้ บีเอ็มดับเบิลยู X3 xDrive30e M Sport ใหม่ นับเป็นการต่อยอดความสำเร็จของรถยนต์ Sports Activity Vehicle (SAV) รุ่นบุกเบิกอย่าง BMW X5 ที่ปัจจุบันมีให้เลือกทั้งในรุ่นปลั๊กอินไฮบริดและดีเซล สำหรับแฟนๆ มินิ เราได้พารถยนต์รุ่นโปรดอย่าง มินิ แฮทช์ และ มินิ คอนเวิร์ตทิเบิล มาอวดโฉมในสไตล์สุดพิเศษกับ มินิ Rosewood Edition ที่สวยสะดุดตาด้วยสีพิเศษในโทนอุ่น และมินิ คอนเวิร์ตทิเบิล Sidewalk Edition ที่มาพร้อมกับความเท่ในสีโทนเย็น

เสริมอิสรภาพจากทางเลือกขึ้นอีกขั้น ด้วยประสบการณ์การเข้าชมงานด้วยตนเองหรือผ่านช่องทางดิจิทัล ด้วยสถานการณ์ในปัจจุบัน บรรดาผู้จัดแสดงรถยนต์ภายในงานบางกอก อินเตอร์เนชั่นแนล มอเตอร์โชว์ ได้จัดทำมาตรการตามความเหมาะสมเพื่อสร้างความมั่นใจให้กับผู้เข้าร่วมงานทุกคน ไม่ว่าจะเป็นการจัดทางเดินให้กว้างขึ้น การขอความร่วมมือให้ผู้เข้าร่วมงานทุกคนสวมใส่หน้ากากอนามัยภายในพื้นที่ พร้อมจัดทำการฆ่าเชื้อโรคเป็นประจำอย่างเข้มงวด


ภายในบูธจัดแสดงของบีเอ็มดับเบิลยู มินิ และบีเอ็มดับเบิลยู มอเตอร์ราด ลูกค้าสามารถแวะชมพื้นที่จัดแสดงได้อย่างปลอดภัย โดยมีที่ปรึกษาด้านการขายที่สวมหน้ากากอนามัยและหน้ากาก Face shield พร้อมให้บริการ ในขณะที่บริเวณที่นั่งยังมีการเว้นระยะห่างที่มากขึ้นระหว่างแต่ละโต๊ะ และมีห้องแสดงรถยนต์ส่วนตัวได้โดยไม่ต้องกังวลถึงความแออัดแต่อย่างใด

สำหรับลูกค้าที่เลือกเข้าร่วมชมงานมอเตอร์โชว์ 2020 อย่างสะดวกสบายและปลอดภัยจากบ้าน สามารถเยี่ยมชมบูธของเราผ่านแพลตฟอร์ม BMW Virtual Motor Show 2020 ได้เช่นกัน ประสบการณ์ดิจิทัลครั้งนี้ครอบคลุมทุกพื้นที่ในบูธของเรา โดยมีทั้งการพาทัวร์บูธอย่างทั่วถึงทุกมุม รายละเอียดเจาะลึกของแต่ละรุ่นรถยนต์ที่นำมาจัดแสดง ทั้งยังสามารถสนทนาโต้ตอบกับผู้เชี่ยวชาญด้านผลิตภัณฑ์จากบีเอ็มดับเบิลยูและพนักงานขายได้ ผ่านระบบ VDO Call หรือข้อความแชท เพื่อสั่งจองซื้อรถยนต์ได้โดยตรงจากบ้านอีกด้วยมร. บารากา เสริม พร้อมให้คุณอุ่นใจยิ่งกว่าเคย กับการเป็นเจ้าของรถยนต์ในเครือบีเอ็มดับเบิลยู ในฐานะส่วนหนึ่งของบีเอ็มดับเบิลยู กรุ๊ป บีเอ็มดับเบิลยู ไฟแนนเชียลเซอร์วิส ประเทศไทย มุ่งมั่นตอกย้ำความเป็นผู้นำด้านนวัตกรรมและการให้บริการระดับพรีเมียม พร้อมยกระดับบริการทางการเงินขึ้นอีกขั้น

ภายในงานมอเตอร์โชว์ 2020 ลูกค้าจะได้เพลิดเพลินกับนวัตกรรมยานยนต์จากบีเอ็มดับเบิลยู กรุ๊ป ด้วยรถยนต์หลากหลายรุ่นและข้อเสนออีกมากมาย เริ่มจากข้อเสนอฟรีประกันภัยชั้นหนึ่งสูงสุด 3 ปี เมื่อเป็นเจ้าของรถยนต์บีเอ็มดับเบิลยูรุ่นปลั๊กอินไฮบริดทุกรุ่น ด้วยสินเชื่อแบบมีบอลลูน (Hire Purchase with Balloon) หรือการเช่าซื้อทางการเงิน (Financial Lease)

นอกจากนี้ ลูกค้าจะได้รับความคุ้มครองเหนือระดับ โดยพันธมิตรบริษัทประกันภัยชั้นนำที่พร้อมมอบความคุ้มครองให้กับทั้งลูกค้าและรถยนต์บีเอ็มดับเบิลยู ภายใต้ชื่อ BMW Exclusive Protect ประกอบด้วย 3 แผนประกันความคุ้มครอง ดังนี้

BMW Protect ประกันภัยรถยนต์ชั้นหนึ่ง มอบความคุ้มครองที่มากกว่าในกรณีเกิดความเสียหายจากอุบัติเหตุ ครอบคลุมทั้งบริการระดับพรีเมียมและการันตีอะไหล่แท้จากบีเอ็มดับเบิลยู รวมถึงคุ้มครองความเสียหายและการบาดเจ็บจากอุบัติเหตุ ไฟไหม้ โจรกรรม และกรณีอื่น ๆ โดยพร้อมให้บริการช่วยเหลือฉุกเฉินตลอด 24 ชั่วโมง

BMW Payment Protect เสริมความอุ่นใจให้กับแผนประกันคุ้มครองสินเชื่อรถยนต์ ด้วยความคุ้มครองภาระหนี้สินคงเหลือในกรณีการเสียชีวิตและทุพพลภาพถาวรสิ้นเชิง พร้อมมอบความคุ้มครองหากได้รับอุบัติเหตุหรือเจ็บป่วยจนไม่สามารถทำงานได้ตามปกติด้วยค่างวดรายเดือนนานสูงสุดถึง 6 เดือน


และแผนประกันความคุ้มครองใหม่ล่าสุด BMW Extended Protect ที่ยกระดับความอุ่นใจสูงสุดด้วยทางเลือกในการขยายระยะเวลารับประกันคุณภาพรถยนต์นานสูงสุด 3 ปี หรือ 200,000 กิโลเมตร ครอบคลุมการเคลมค่าใช้จ่ายได้สูงสุดถึงจำนวนเงินเอาประกันหลังหมดระยะเวลารับประกันของรถยนต์ มาพร้อมบริการช่วยเหลือฉุกเฉินตลอด 24 ชั่วโมง ทั้งยังไม่จำกัดจำนวนครั้งของการเคลม ครอบคลุมครบทั้งชิ้นส่วนที่บกพร่องทางกลไกและระบบไฟฟ้า ทั้งยังสามารถโอนกรรมสิทธิ์ไปยังบุคคลอื่นได้ในกรณีที่ขายรถยนต์ต่อในอนาคต ผู้ขับขี่จึงสบายใจได้ด้วยประกันคุณภาพรถยนต์ที่มอบความคุ้มครองอย่างหลากหลายและยาวนานยิ่งขึ้น

นอกจากนี้ เจ้าของรถยนต์มินิและมอเตอร์ไซค์บีเอ็มดับเบิลยู มอเตอร์ราด ยังสามารถอุ่นใจกับข้อเสนอดังกล่าวข้างต้นซึ่งดำเนินการโดยบริษัทประกันภัยที่ได้รับอนุญาต

บีเอ็มดับเบิลยู ไฟแนนเชียลเซอร์วิส ประเทศไทย ยังมอบข้อเสนอสุดพิเศษด้วยโปรแกรม BMW Freedom Choice กับครั้งแรกในการรับประกันมูลค่ารถบีเอ็มดับเบิลยูของลูกค้าในอนาคตสูงสุดถึง 60% (เมื่อผ่อนชำระ 36 เดือน) และค่างวดที่เอื้อมถึงได้ พร้อมทางเลือกหลังสิ้นสุดสัญญาที่ลูกค้าสามารถเลือกเป็นเจ้าของหรือคืนรถได้ จึงตอบโจทย์กลุ่มลูกค้ารุ่นใหม่ที่สนใจเป็นเจ้าของรถยนต์บีเอ็มดับเบิลยูเป็นคันแรกอีกด้วย

สำหรับข้อมูลเพิ่มเติมเกี่ยวกับบริการทางการเงิน ติดต่อได้ที่ BMW Contact Center 1397 หรือ Official LINE @BMWLeasing

ไฮไลท์รถยนต์บีเอ็มดับเบิลยูและมินิ ในงานบางกอก อินเตอร์เนชั่นแนล มอเตอร์โชว์ ครั้งที่ 41


บีเอ็มดับเบิลยู X3 xDrive30e M Sport ใหม่ (รุ่นประกอบในประเทศ)

ราคาจำหน่าย: 3,659,000 บาท (รวมภาษีมูลค่าเพิ่ม และโปรแกรมบำรุงรักษา BSI Standard)

บีเอ็มดับเบิลยู X3 xDrive30e M Sport ใหม่ ผสมผสานระบบขับเคลื่อน 4 ล้อแบบ xDrive และระบบขับเคลื่อนด้วยพลังงานไฟฟ้า eDrive ของบีเอ็มดับเบิลยูเข้ากันอย่างลงตัว เพื่อมอบความเพลิดเพลินในการขับขี่ควบคู่ความยั่งยืนอย่างสมบูรณ์ บีเอ็มดับเบิลยู X3 xDrive30e M Sport ใหม่ มาพร้อมกับระบบปลั๊กอินไฮบริดที่ประกอบด้วยเครื่องยนต์เบนซิน 4 สูบ ขนาด 2 ลิตร มอบกำลังสูงสุดที่ 135 กิโลวัตต์ / 184 แรงม้า พร้อมเทคโนโลยี BMW TwinPower Turbo และมอเตอร์ไฟฟ้าที่ทำงานร่วมกับเกียร์อัตโนมัติ 8 จังหวะแบบ Sport Steptronic มอบกำลังขับจากระบบไฟฟ้าสูงสุดที่ 80 กิโลวัตต์ / 109 แรงม้า โดยส่งพลังลงสู่ล้อทั้งสี่อย่างเต็มพิกัดเพื่อตอบทุกโจทย์การขับขี่อย่างแท้จริง รวมถึงการขับขี่ด้วยระบบไฟฟ้าเต็มรูปแบบ การประหยัดน้ำมัน และการลดมลภาวะ

เมื่อนับรวมกันแล้ว เครื่องยนต์ขุมพลังเบนซิน 4 สูบ และมอเตอร์ไฟฟ้าของรถยนต์ปลั๊กอินไฮบริดรุ่นนี้สามารถส่งกำลังรวมสูงสุดได้ถึง 215 กิโลวัตต์ / 292 แรงม้า และยังช่วยลดอัตราสิ้นเปลืองเชื้อเพลิงให้ลงมาที่ระดับ 35.7 กิโลเมตรต่อลิตร ขณะที่อัตราการปล่อย CO2 อยู่ที่ 64 กรัมต่อกิโลเมตร และหากนับรวมการใช้พลังงานทั้งสองรูปแบบแล้ว บีเอ็มดับเบิลยู X3 xDrive30e M Sport ใหม่ จะมีอัตราการใช้ไฟฟ้าอยู่ที่ประมาณ 17.92 กิโลวัตต์-ชั่วโมงต่อ 100 กิโลเมตร ส่วนแบตเตอรี่ลิเธียมไอออนมาพร้อมกับเทคโนโลยีเซลล์แบตเตอรี่ใหม่ล่าสุด ส่งกำลังให้สามารถขับขี่ในโหมดไฟฟ้าล้วนได้ในระยะทางสูงสุดถึง 47 กิโลเมตร ตามมาตรฐาน NEDC ประสิทธิภาพอันยอดเยี่ยมในด้านการใช้พลังงานนี้ ยังมาพร้อมกับสมรรถนะที่เป็นเลิศ ด้วยแรงบิดรวมสูงสุดที่ 420 นิวตันเมตร ทำให้บีเอ็มดับเบิลยู X3 xDrive30e M Sport ใหม่ สามารถเร่งความเร็วจาก 0-100 กิโลเมตรต่อชั่วโมงได้ภายในเวลาเพียง 6.1 วินาที และทำความเร็วสูงสุดได้ถึง 210 กิโลเมตรต่อชั่วโมง

มอเตอร์ไฟฟ้าของรถยนต์บีเอ็มดับเบิลยู X3 xDrive30e M Sport ใหม่ สามารถทำงานทั้งในรูปแบบการขับขี่พลังงานไฟฟ้าล้วน หรือเพื่อช่วยสนับสนุนการทำงานของเครื่องยนต์สันดาป ตามแต่โหมดการทำงานและสถานการณ์บนท้องถนนอีกด้วย โดยในโหมด MAX eDrive ซึ่งเปิดใช้งานได้ด้วยปุ่ม eDrive บริเวณคอนโซลหลัก บีเอ็มดับเบิลยู X3 xDrive30e M Sport ใหม่ จะสามารถทำความเร็วสูงสุดได้ที่ 135 กิโลเมตรต่อชั่วโมง โดยปราศจากการปล่อยมลพิษ พร้อมมอบประสบการณ์การขับขี่ที่เงียบเชียบ ไร้เสียงรบกวน ด้านโหมด Auto eDrive แบบมาตรฐานสามารถทำความเร็วสูงสุดด้วยการขับขี่แบบไฟฟ้าล้วนได้ที่ 110 กิโลเมตรต่อชั่วโมง ในขณะเดียวกัน เครื่องยนต์สันดาปยังสามารถสลับมาทำหน้าที่แทนเมื่อเร่งความเร็วสูงขึ้น หรือเมื่อมีความจำเป็นต้องใช้พละกำลังจากเครื่องยนต์เพิ่มเติม เมื่อระบบเครื่องยนต์และมอเตอร์ทำงานประสานกัน บีเอ็มดับเบิลยู X3 xDrive30e M Sport ใหม่ จะแสดงประสิทธิภาพและพลังการขับขี่ให้สัมผัสได้ถึงขีดสุด โดยในขณะที่เร่งความเร็ว มอเตอร์ไฟฟ้าจะมอบการตอบสนองที่ทันใจกว่าอย่างชัดเจน และในการขับขี่ด้วยความเร็วคงที่ มอเตอร์ไฟฟ้าก็จะช่วยลดอัตราการสิ้นเปลืองเชื้อเพลิงและการปล่อยมลภาวะลง


นอกจากนี้ ผู้ขับขี่ยังสามารถเลือกใช้คุณสมบัติ BATTERY CONTROL เพื่อกำหนดสถานะการชาร์จของแบตเตอรี่แรงดันสูงให้อยู่ในระดับที่ผู้ขับขี่ต้องการ จึงสามารถกักเก็บพลังงานเพื่อสลับมาเลือกขับขี่แบบไร้มลภาวะได้ ขณะเดินทางผ่านบริเวณเมืองเป็นต้น

แบตเตอรี่ลิเธียมไอออนของรถยนต์บีเอ็มดับเบิลยู X3 xDrive30e M Sport ใหม่ ตั้งอยู่บริเวณใต้เบาะผู้โดยสารด้านหลังจึงช่วยประหยัดพื้นที่ ในขณะที่ถังน้ำมันตั้งอยู่เหนือบริเวณเพลาหลังของตัวรถ รถยนต์ปลั๊กอินไฮบริดคันนี้จึงสามารถบรรจุสัมภาระได้โดยแทบไม่ถูกจำกัดพื้นที่ ด้วยพื้นที่เก็บสัมภาระที่มีความจุถึง 450 ลิตร เทียบได้กับรถยนต์เครื่องยนต์สันดาปรุ่นอื่น ๆ และเมื่อพับพนักพิงเบาะหลังแบบ 40:20:40 ก็สามารถเพิ่มความจุได้สูงสุดถึง 1,500 ลิตร

ด้วยเทคโนโลยีเซลล์แบตเตอรี่ล้ำสมัยที่มีความจุรวม 12.0 กิโลวัตต์-ชั่วโมง แบตเตอรี่แรงดันสูงของบีเอ็มดับเบิลยู X3 xDrive30e M Sport ใหม่ จึงมอบทั้งประสิทธิภาพที่โดดเด่นและระยะทางการขับขี่แบบไฟฟ้าล้วนที่ยาวไกลกว่า จึงใช้ขับขี่เดินทางในแต่ละวันได้โดยปราศจากมลภาวะ แม้จะต้องเดินทางออกนอกเมืองก็ตาม แบตเตอรี่แรงดันสูงชุดนี้รองรับการชาร์จผ่านเต้าเสียบปลั๊กไฟทั่วไปภายในบ้านด้วยอุปกรณ์สายชาร์จมาตรฐาน โดยสามารถชาร์จจนเต็มได้ภายเวลาไม่เกิน 6 ชั่วโมงด้วยวิธีนี้ ในขณะที่การชาร์จแบตเตอรี่ผ่านแท่นชาร์จ BMW i Wallbox จะสามารถชาร์จแบตเตอรี่เต็มได้ภายในเวลาเพียง 3.5 ชั่วโมง

รถยนต์บีเอ็มดับเบิลยู X3 xDrive30e ใหม่ ในแพ็คเกจชุดแต่ง M Sport มาพร้อมกับล้ออัลลอย M น้ำหนักเบาขนาด 20 นิ้วในลาย Double-Spoke ระบบไฟหน้า LED ปรับตามทิศทางหมุุนของพวงมาลัย ระบบปรับการทำงานไฟสูงอัตโนมัติ คาลิเปอร์เบรกดีไซน์ M Sport ระบบช่วยการขับขี่ ระบบช่วยจอดรถ ระบบแสดงผล BMW Head-Up Display ชุดเครื่องเสียงรอบทิศทาง Harman/Kardon และราวหลังคาอลูมิเนียมแบบด้าน สำหรับอุปกรณ์พื้นฐานอื่น ๆ ยังรวมถึงระบบสร้างเสียงจำลองเตือนผู้ใช้ถนนรอบข้าง โดยเมื่อขับขี่ในระบบไฟฟ้าด้วยความเร็วต่ำ บีเอ็มดับเบิลยู X3 xDrive30e M Sport ใหม่ จะส่งเสียงอันเป็นเอกลักษณ์เฉพาะของรถยนต์ไฟฟ้าบีเอ็มดับเบิลยูเพื่อเตือนผู้ใช้ถนนให้ทราบถึงตัวรถที่เคลื่อนเข้ามาใกล้ โดยไม่รบกวนความสงบเงียบของผู้ขับขี่และผู้โดยสาร

นอกจากนี้ รถยนต์บีเอ็มดับเบิลยู X3 xDrive30e M Sport ใหม่ ยังมาพร้อมระบบปรับอากาศอัตโนมัติเป็นอุปกรณ์มาตรฐานซึ่งควบคุมได้ในระยะไกลด้วยสมาร์ทโฟนผ่าน BMW Connected App ผู้ขับขี่จึงสามารถไปถึงรถยนต์ที่ปรับอากาศเย็นสบายได้ในฤดูร้อน ส่วนบริการดิจิทัลอื่น ๆ ยังช่วยให้ผู้ขับขี่สามารถควบคุมการชาร์จแบตเตอรี่ขณะเดินทางได้ง่ายยิ่งขึ้น ไม่ว่าจะเป็นระบบช่วยเหลือในการค้นหาสถานีชาร์จสาธารณะ การควบคุมระบบชาร์จแบตเตอรี่จากทางไกล หรือการตรวจสอบข้อมูลสถานะการชาร์จ และระยะการขับขี่ทั้งในแบบไฟฟ้าล้วนและผสม ผ่านทางสมาร์ทโฟนของผู้ขับขี่หรืออุปกรณ์ส่วนตัวอื่น ๆ ได้


บีเอ็มดับเบิลยู X5 xDrive45e M Sport

ราคาจำหน่าย: 4,999,000 บาท (รวมภาษีมูลค่าเพิ่ม และโปรแกรมบำรุงรักษา BSI Standard)

บีเอ็มดับเบิลยู X5 xDrive30d M Sport

ราคาจำหน่าย: 4,699,000 บาท (รวมภาษีมูลค่าเพิ่ม และโปรแกรมบำรุงรักษา BSI Standard)

เจเนอเรชั่นที่ 4 ของบีเอ็มดับเบิลยู X5 ทั้งในรูปแบบปลั๊กอินไฮบริดและเครื่องยนต์ดีเซล โดดเด่นด้วยการผสมผสานสมรรถนะและความสะดวกสบายอย่างเหนือระดับ โดยไม่ทิ้งรูปลักษณ์อันเป็นเอกลักษณ์ของรถยนต์ในตระกูล SAV นอกจากนี้ ทั้ง 2 รุ่นของบีเอ็มดับเบิลยู X5 ในรูปแบบปลั๊กอินไฮบริดและเครื่องยนต์ดีเซล ยังเป็นรุ่นที่ประกอบในประเทศและมาพร้อมราคาที่เร้าใจยิ่งขึ้นบีเอ็มดับเบิลยู X5 xDrive45e M Sport ผสานขุมพลังการขับเคลื่อนระบบไฟฟ้าเข้ากับความคล่องตัวในแบบฉบับรถยนต์ Sports Activity Vehicle (SAV) มีอัตราการสิ้นเปลืองเชื้อเพลิงที่ 43.5 กิโลเมตรต่อลิตร ตาม ECO Sticker โดยเมื่อขับเคลื่อนด้วยไฟฟ้าเพียงอย่างเดียว จะสามารถทำความเร็วสูงสุดที่ 135 กิโลเมตรต่อชั่วโมง จากเดิมสูงสุดที่ 120 กิโลเมตรต่อชั่วโมง และวิ่งด้วยไฟฟ้าได้ไกลสูงสุด 80 กิโลเมตร ตามมาตรฐาน NEDC และผล Eco Sticker

บีเอ็มดับเบิลยู X5 xDrive45e M Sport ขับเคลื่อนด้วยขุมพลังเครื่องยนต์เบนซิน 6 สูบ 3.0 ลิตร BMW TwinPower Turbo ที่มอบพลังถึง 210 กิโลวัตต์ / 286 แรงม้า ควบคู่ไปกับความปราดเปรียวที่ได้จากเทคโนโลยีบีเอ็มดับเบิลยู EfficientDynamics และเจเนอเรชั่นที่ 4 ของเทคโนโลยีบีเอ็มดับเบิลยู eDrive สุดล้ำ มอเตอร์ไฟฟ้าส่งกำลังสูงสุดที่ 83 กิโลวัตต์ / 113 แรงม้า ตัวแบตเตอรี่ลิเธียมไอออนจุพลังงานไฟฟ้าได้กว่า 24 กิโลวัตต์-ชั่วโมง โดยระบบไฟฟ้าทั้งหมดได้รับการพัฒนาเพื่อให้จัดการพลังงานอย่างมีประสิทธิภาพยิ่งขึ้น ส่งผลให้ระบบปลั๊กอินไฮบริดของบีเอ็มดับเบิลยู X5 xDrive45e M Sport มอบความประหยัดพลังงานที่เหนือกว่า

เมื่อมอเตอร์ไฟฟ้าและเครื่องยนต์ทำงานร่วมกัน จะมอบพละกำลังสูงสุดที่ 290 กิโลวัตต์ / 394 แรงม้า พร้อมแรงบิด 600 นิวตันเมตร ส่งกำลังโดยตรงไปที่เกียร์อัตโนมัติ 8 สปีด Steptronic เจเนอเรชั่นล่าสุดและระบบขับเคลื่อนสี่ล้อ xDrive ที่มอบสมรรถนะบนถนนในสไตล์สปอร์ต พร้อมกับสมรรถนะแบบออฟโรดที่เหนือชั้น ให้อัตราเร่งจาก 0 ถึง 100 กิโลเมตรภายใน 5.6 วินาที ทำความเร็วได้ดีกว่ารุ่นก่อนหน้ากว่า 1.2 วินาที ด้วยความเร็วสูงสุดที่ 235 กิโลเมตรต่อชั่วโมง

ส่วนบีเอ็มดับเบิลยู X5 xDrive30d M Sport ขับเคลื่อนด้วยเกียร์อัตโนมัติ 8 จังหวะแบบ Steptronic ทำงานคู่กับเครื่องยนต์ดีเซล 6 สูบ เทคโนโลยี BMW TwinPower Turbo ส่งกำลังสูงสุด 195 กิโลวัตต์ / 265 แรงม้า ที่ 4,000 รอบต่อนาที และแรงบิดสูงสุด 620 นิวตันเมตรที่ 2,000-2,500 รอบต่อนาที ส่งพลังให้เร่งความเร็วจาก 0 ถึง 100 กิโลเมตรต่อชั่วโมงภายใน 6.5 วินาที และมีความเร็วสูงสุด 230 กิโลเมตรต่อชั่วโมง นอกจากนี้ ระบบขับเคลื่อนสี่ล้อบีเอ็มดับเบิลยู xDrive เจเนอเรชั่นล่าสุด ที่ได้รับการพัฒนากำลังขับเคลื่อนและควบคุมการทรงตัวได้อย่างดีเยี่ยม ยังมอบความมั่นใจด้วยการถ่ายแรงขับเคลื่อนอย่างนุ่มนวลระหว่างล้อหลังทั้งสองข้าง ไม่ว่าบนเส้นทางออนโรดหรือออฟโรด ในด้านระบบช่วงล่าง บีเอ็มดับเบิลยู X5 xDrive30d M Sport มาพร้อมช่วงล่างแบบ Adaptive ในขณะที่บีเอ็มดับเบิลยู X5 xDrive45e M Sport มาพร้อมช่วงล่างแบบถุงลมที่สามารถปรับระดับอัตโนมัติและระบบควบคุมความนุ่มนวลโช้กอัพแบบแปรผัน ทั้งสองรุ่นยังมาพร้อมระบบควบคุมการยึดเกาะถนน (Dynamic Traction Control) ระบบ Driving Experience Control สำหรับเลือกรูปแบบการขับขี่พร้อมโหมด ECO PRO และระบบควบคุมเสถียรภาพการขับขี่ (Dynamic Stability Control) เพิ่มประสิทธิภาพการขับขี่บนเส้นทางออฟโรด พร้อมมอบความสปอร์ตคล่องตัวและความสะดวกสบายได้ตลอดเส้นทาง

อมร วรมาลี / amornthaitelegraph@gmail.com



ขอขอบคุณ : บีเอ็มดับเบิลยู กรุ๊ป ประเทศไทย

แสดงความคิดเห็น


คำค้นหาทั่วไป


กีฬาแต้มเท่าผีไฮไลท์ พรีเมียร์ลีกพรีเมียร์ลีกแมนเชสเตอร์ เอฟเวอร์ตันบาร์เซโลน่าพรีเมียร์ลีก อังกฤษอังกฤษพรีเมียร์ลีกคูตี้ชูมาเน่น้องเมยโดนซ้อมแฉ “น้องเมย”เตรียมทหารนักเรียนเตรียมทหารชั้นปีที่ มารีญาพันชีวิตสุดมันส์ วิ่งนักวิ่งไทย-เทศสิงห์เติมจี๊ด!ร่วมวิ่งแอดเวนเจอร์ ข่าวกีฬาย้อนหลังรอบโลกกีฬาก้าวสู่ปีที่ 7สุโขทัยมาราธอน 2017′วิ่งเพื่อมรดกโลกศึกวอลเลย์บอลปลื้มจิตร์-นุศราโตโยต้ามอเตอร์สปอร์ตกีฬาโปรอาร์มธงชัย ใจดี โชคชัยจีทีเอ็มมอเตอร์สปอร์ตไทยToyota Motorsportสายสปีดโคราชพิสูจน์ความเร็วซิ่งกระกาย สุดมันส์กลางเชียงใหม่Super Car GTMโตโยต้า ทีมไทยแลนด์เรซที่ 3 Division 1รถยนต์โตโยต้า86ศึก RAATศึกซูเปอร์ ซีรี่ส์ 2017ซูเปอร์คาร์จีทีเอ็มสนามช้างไทยแลนด์ เรซซิ่งนักบิดมวยไชยาฟุตบอลเอเอฟซี คัพ 2017ถ่ายทอดสดฟุตบอลผลบอลสดเอเอฟซี ชิงชนะเลิศฟุตบอลสถิติเมืองทองบุรีรัมย์ ยูไนเต็ดเจลีกคู่แข่ง ACLเจลีกคัพข่าวกีฬา พรีเมียร์ลีก อังกฤษข่าวฟุตบอลพรีเมียร์ลีก ตารางคะแนนกีฬาที่น่าสนใจ